ย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อัญเชิญประดิษฐานที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่บริษัท ช.ปฎิมากรรม อินดัสตรี จำกัด เลขที่ 30/3 ม.6 ต.วังเย็น อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี ผู้ทรงคุณวุฒิ (พิเศษ) กองทัพบก ผู้อำนวยการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มาดำเนินการเคลื่อนย้ายองค์พระบรมราชานุสาวรีย์ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่มีส่วนสูง 13.9 เมตร เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ อุทยานราชภักดิ์ ต.ลูกแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ที่ถือเป็นองค์แทนพระมหากษัตริย์แต่ละสมัย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งมีความหมายว่า อุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรูปแบบของพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ กรมศิลปากรได้สนับสนุนการออกแบบ ในลักษณะพระอิริยาบถทรงยืน มีขนาดความสูง 13.9 เมตร หล่อด้วยโลหะสำริดนอก ดำเนินการหล่อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี โดยจะมีการอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ มาประดิษฐาน ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ ภายในอุทยานราชภักดิ์ระหว่างวันที่ 23 ถึงวันที่ 30 ก.ค. นี้ ตามเส้นทางถนนพระราม 2 ถนนเพชรเกษม และถนนเลี่ยงเมืองชะอำ-ปราณบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนการเคลื่อนย้าย ใช้รถนำจากกองพันทหารสารวัตรที่ 11 นำ ใช้รถบรรทุกเทรล หมายเลขทะเบียน 62-4547 กรุงเทพมหานครปฐม กับหมายเลขทะเบียน 77-2804 หมายเลขทะเบียน 62-4545กรุงเทพมหานคร และหมายเลขทะเบียน 61-8251 กรุงเทพมหานคร โดยออกเดินจาก บริษัท ช. ปฏิมากรรม อินดัสตรี จำกัด เมื่อเวลา 16.00น. ไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าผ่าน จ.ราชบุรี เพชรบุรีเข้าสู่ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ