ตายสยองวันเกิด!! โจ๋ซิ่งจยย.ย้อนศร 3 ศพเกลื่อนอุโมงค์ ดราม่าโพสต์โวยตร.-เจอโต้สุดมั่ว


เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 17 ก.ค. พ.ต.ต.สถิตย์ นิตยวัน พงส.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า มีรถจักรยานยนต์ ขับขี่ย้อนศร เข้าไปในช่องทางลอดอุโมงค์ข่วงสิงห์ ถนนเชียงใหม่-ลำปาง (ขาออก) ต.ช้างเผือก จึงรุดไปสอบสวน เมื่อไปถึงพบรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อมาสด้า BT 50 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 3กฉ 8861 กรุงเทพมหานคร มี นายไพทูล หมุนดี อายุ 38 ปี อยู่หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ชนกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีน้ำตาล ทะเบียน จมล 73 ชนครูดมากับพื้นถนน ห่างจากจุดที่ชนร่วม 200 เมตร มีศพคนขี่และคนซ้อนรถจักรยานยนต์ พร้อมเศษชิ้นส่วนมนุษย์กระจายเกลื่อนและเลือดเปรอะถนน

 ต่อมาทางตำรวจทราบชื่อคนที่เสียชีวิต คือ นายเกรียงไกร จินตนา อายุ 20 ปี อยู่ ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ และ นายโสฬส จินตะนา อายุ 20 ปี อยู่ ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และนายเกรียงไกร ศรีวิชัย อายุ 20 ปี ผู้ตาย ซึ่งเกิดวันที่ 17 ก.ค. 2538 ซึ่งวันเกิดเหตุตรงกับวันเกิดพอดี


 จากการสอบสวน นายไพทูล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาในช่องทางตนเอง จากแยกวัดเจ็ดยอด มุ่งหน้าลำพูน และวิ่งในช่องด้านขวาสุด และมีรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับขี่ย้อนศรลงทางอุโมงค์มา เป็นจังหวะที่ตนกำลังแล่นลงจากอุโมงค์ ด้วยความเร็วจึงเบรกไม่ทัน เป็นเหตุให้ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทางตำรวจได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ วัดได้ 143 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถโดยประมาท ทำให้เฉี่ยวชนผู้อื่น ถึงแก่ความตาย โดยทางพนักงานสอบสวนได้ให้ตำรวจสายตรวจนำไฟสัญญาณและสายกั้น กรวยยาง มาวางยังจุดเกิดเหตุ เพราะรัศมีชิ้นส่วนทั้งรถและคนกระจายไปทั่ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นใต้อุโมงค์ และบนขอบอุโมงค์ ปรากฏว่า มีไทยมุงมามุงดูกันจำนวนมาก บางคนก็บันทึกภาพคลิปที่เกิดขึ้นและวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา ว่าตำรวจตั้งด่านในอุโมงค์ทำให้เกิดความเสียหายและนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเอง แชร์กันไปทั่ว

 ส่วนสาเหตุของการย้อนศรของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนทราบมาว่า ก่อนเกิดเหตุ ทางตำรวจสายตรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีการตั้งด่าน ที่บริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์  เพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายที่หน้าโรงพยาบาลลานนา ห่างจากจุดอุโมงค์ ที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่เนื่องจากฝนกำลังตก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันปรามปราบ จึงได้ยุติการตั้งด่าน แต่ยังคงไฟสัญญาณไว้ อยู่บางส่วน ที่จุดตั้งด่าน


 ต่อมา ผู้ตายทั้ง 3 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากตัวเมือง ขณะกำลังขับขี่ลอดอุโมงค์ ก็เห็นสัญญาณไฟการตั้งด่าน คาดว่าผู้ตายทั้งสามคิดว่า ตำรวจคงตั้งด่านตรวจอยู่ ด้วยกลัวความผิด จึงเลี้ยวรถจักรยานยนต์ขี่ย้อนศรลงอุโมงค์มา จนถูกรถกระบะพุ่งชนจนเสียชีวิต โดยวัยรุ่นทั้งสามคน จากการตรวจดูบัตรประจำตัวประชาชน ทราบว่า 1 ใน 3 คน นั้นเกิดวันที่ 17 ก.ค. คาดว่าน่าจะไปฉลองวันเกิดกันมา

 ผู้สื่อข่าวรายางนว่า หลังจากที่ไทยมุงบางคนได้ทำการบันทึกคลิปและถ่ายภาพ จุดที่เกิดหตุรถชนกันและนำไปโพสต์เฟซบุ๊ก ลงทั้งข้อความ รูปภาพ กล่าวหาว่า พนักงานสอบสวนและสายตรวจ สภ.ช้างเผือก ที่มาตรวจสอบอุบัติเหตุนั้น ได้ตั้งด่านใต้อุโมงค์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับตำรวจพนักงาสอบสวนอย่างมาก เป็นการเข้าใจผิด และมีการแชร์กันออกไปอย่างกว้างขวาง


 ต่อมาทางพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ โดย พ.ต.ต.สถิตย์ นิตยวัน พงส.สภ.ช้างเผือก พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้ทำการชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า "ขออนุญาตนำเรียนทุกท่านครับ กรณีอุบัติเหตุ เมื่อคืนนี้ 17 ก.ค.58 เวลา 02.15 น. รถชนกันทางลอดแยกข่วงสิงห์ แล้วมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ กรณีที่มีบุคคลโพสต์ภาพถ่ายอุบัติเหตุรถชน ทางลอดแยกข่วงสิงห์ ไปลงข้อความอันเป็นเท็จใน FB  ว่าตำรวจช้างเผือกตั้งด่านทางลอดข่วงสิงห์ เป็นเหตุตาย 3 ศพ. นั้น

 พ.ต.ต.สถิตย์ นิตยวัน ร้อยเวรจราจร พนักงานสอบสวน ขอชี้แจงผ่านสื่อว่าภาพดังกล่าวว่า “เป็นการไปตรวจที่เกิดเหตุ ทางลงอุโมงค์ข่วงสิงห์ขาออก ในเวลาประมาณ 02.15 น ซึ่งในขณะนั้น ไม่มีการตั้งจุดตรวจแต่อย่างใด ขณะเกิดเหตุนั้นมีรถที่เกิดอุบัติเหตุกีดขวางการจราจรทางลอดแยกข่วงสิงห์ฝั่งขาออก และมีศพเกลื่อนถนน จึงขอให้สายตรวจ ตำรวจอาสา และมูลนิธิ วางกรวยแสดงสัญญานแจ้งเหตุ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และเพื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุ อีกทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติหน้าที่  

 การที่ผู้โพสต์ FB ดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายเป็นการนำเข้าข้อความทางคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ มาตรา 14(1)(5) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบการกระทำผิดจริง จะดำเนินคดีอาญากับผู้โพสต์ให้ถึงที่สุด

 แจ้งทุกท่านให้ทราบครับ การโพสต์ FB เป็นเป็นเหมือนดาบ 2 คม หากโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ อาจจะผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้นะครับ ตั้งสติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะโพสต์ทุกครั้ง เพราะย่อมมีผลกระทบต่อผู้อื่นเสมอ สุดท้าย ขอแสดงความเสียใจ กับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องคดีไม่ต้องกังวลนะครับ จะอำนวยความยุติธรรม ตามพยานหลักฐาน และกฏหมายให้เป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายให้ดีที่สุด”

0 Response to "ตายสยองวันเกิด!! โจ๋ซิ่งจยย.ย้อนศร 3 ศพเกลื่อนอุโมงค์ ดราม่าโพสต์โวยตร.-เจอโต้สุดมั่ว"

Post a Comment